วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์

    

      อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์   

    การใช้คอมงพิวเตอร์ช่วยส่งเสริมการทำงานด้านต่างๆ นอกจากการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อส่งเสริมการทำงานเฉพาะด้านแล้ว การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์(Net  Computer )

ก็ช่วยส่งเสริมการทำงานของคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่ละชนิดจะใช้อุปกรณ์แตกต่างกัน โดยอุปกรณ์อื่นๆ ที่ นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งการ์ดแลน (LAN Card) แล้วยังนิยมใช้สายรับและส่งสัญญาณข้อมูล ฮับ โมเด็ม และอุปกรณ์จัดเส้นทางช่วยในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์
      



 1.สายรับและส่งสัญญาณ ( Data Line ) 

       เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่นิยมใช้ในการเชื่อมต่อเพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างอุปกรณ์แทบทุกประเภทกับคอมพิวเตอร์ หากนำมาเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง จะเรียกว่า สายแลน (LAN Line หรือ LAN Cable) ปัจจุบันนิยมใช้สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีชั้นโลหะห่อหุ้มหรือสายยูทีพี (UTP:Unshielded Twisted Pair) สายรับและส่งสัญญาณข้อมูลแบ่งเป็นส่วนหัวต่อทำหน้าที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างไปตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ และส่วนสายมีลักษณะคล้ายสายไฟฟ้าทั่วไป น้ำหนักเบา สามารถส่งสัญญาณได้ไม่เกิน 100 เมตร ภายในประกอบด้วยสายทองแดงพันเป็นเกลียวคู่เพื่อลดสัญญาณรบกวน ใน 1 เส้นจะมี 2, 4, 6 หรือ 8 คู่ แต่นิยมใช้แบบ 8 คู่มากที่สุด แต่ละคู่จะมีพลาสติกสีห่อหุ้ม เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและเพื่อให้รู้ว่าเส้นใดเป็นเส้นใด เช่น เส้นที่ 1 สีขาวส้ม เล้นที่ 2 สีส้ม เส้นที่ 3 สีขาวเขียว เส้นที่ 4 สีน้ำเงิน เส้นที่ 5 สีขาวน้ำเงิน เส้นที่ 6 สีเขียว เส้นที่ 7 สีขาวน้ำตาล และเส้นที่ 8 สีน้ำตาล เมื่อต้องการใช้งานจะต้องเรียงลำดับเส้นตามสีที่กำหนดเพื่อสวมเข้ากับหัวต่อด้วยคีมเข้าหัวสายแลน (Plug Crimper Cable) เพื่อเชื่อมต่อสายรับและส่งสัญญาณเข้ากับหัวต่อ



2. ฮับ Hub  

     ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ กับคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ในเครื่อข่ายที่มีโครงสร้างแบบดาว Star Network โดยใช้ฮับเป็นศูนย์กลางของเครื่อข่ายนิยมใช้ติดตั้งในเครื่อข่ายแบบแลนที่มีจำนวนคอมพิวเตอร์ในเครื่อข่ายไม่มากนัก เนื่องจากความเร้วในการรับส่งข้อมูลจะขึ้นอยู่กับจำนวนของคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ผู้ใช้ควรเลือกใช้ฮับที่มีความเร็วสัมพันธ์กับการรับและส่งสัญญาณข้อมูลของการ์ดเครือข่าย และควรพิจารณาถึงการขยายของเครือข่ายที่อาจที่มีขึ้นในอนาคต ฮับมีลักษะณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก น้ำหนักเบา มีช่องสำหรับรับเเละส่งสัญญาณข้อมูลหลายๆ ช่องเรียงกัน โดยช่องอื่นๆจะเชื่อมต่อกับเครื่องลูกข่ายหรื่อเครื่องไคลเอนต์ Client เมื่อมี ผู้ส่งข้อมูลจากเครื่องหนึ่งในเครื่อข่ายฮับจะรับข้อมูลมาแล้วกระจายข้อมูลดังกล่าวส่งไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครื่อข่าย


       3.  เอดีเอสแอล ADSL Asymmetric Digital Subscribers Line


      ADSL ย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscribers Line คือเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงแบบใหม่ ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อ Internet และเครือข่ายระยะไกลได้ด้วยความเร็วสูงโดยใช้คู่สายโทรศัพท์ธรรมดา ถือเป็นเทคโนโลยีของ Modem แบบใหม่ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของสายโทรศัพท์ที่ทำจากลวดทองแดงธรรมดา ให้เป็นเส้นสัญญาณนำส่งข้อมูลความเร็วสูง โดย ADSL สามารถจัดส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการด้วยความเร็วมากกว่า 6 Mbps ไปยังผู้รับบริการ หมายความว่าผู้ใช้บริการสามารถ Download ข้อมูลด้วยความเร็วสูงมากกว่า 6 Mbps ขึ้นไปจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือผู้ให้บริการข้อมูลทั่วไป (ส่วนจะได้ความเร็ว กว่า 6 Mbps หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ รวมทั้งระยะทางการเชื่อมต่ออีกด้วย)  



4.อุปกรณ์จักเส้นทาง

     เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน  หรือเชื่อมโยงอุปกรณ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน  ดังนั้นจึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง  อุปกรณ์จัดเส้นทางจะหาเส้นทางที่เหมาะสมให้  เพื่อนำส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายต่างๆ  ไปยังอุปกรณ์ปลายทางตามที่ระบุไว้  ตัวอย่างการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์จัดเส้นทาง  ดังรูป


4.1 บริดจ์ [Bridge]

 เหมาะสำหรับเชื่อมต่อเครื่อข่ายที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก


4.2 เราเตอร์ [Router]

เหมาะสำหรับเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย 2 เครือข่ายที่มีขนาดหรือมาตรฐานแตกต่างกัน


4.2 เกตเวย์ [Gatway]

เหมาะสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เตรือข่ายที่มีความซับซ้อนมากๆ ซึ่งไม่สามารถจัดเส้นทางได้ด้วยบริดจ์และเราเตอร์


อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์


   อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์   


      คอมพิวเตอร์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างหลากหลาย ช่วยแก้ปัญหาและส่งเสริมการทำงานทุกด้าน เนื่องจากคอมพิวเตอร์สามารถเพิ่มหรือเชื่อต่อเข้ากับอุปกรณ์ชนิดอื่นๆเพื่อทำงานเฉพาะด้าน ในหน่วยการเรียนนี้จะนำเสนออุกรณ์เชื่อต่อคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องพิมพ์ สแกนดฃเนอร์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่


1.เครื่องพิมพ์

    เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่จะผลิตข้อความหรือกราฟิกของ เอกสารที่เก็บไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ออกมาในสื่อทางกายภาพเช่น กระดาษหรือแผ่นใสเครื่องพิมพ์ส่วนมากเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงกับ คอมพิวเตอร์ทั่วไป และเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเครื่องพิมพ์หรือใน เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่จะเป็นสายยูเอสบี เครื่องพิมพ์บางชนิดที่เรียกกันว่า เครื่องพิมพ์เครือข่าย(Network Printer) อินเตอร์เฟซที่ใช้มักจะ เป็นแลนไร้สายและ/หรืออีเทอร์เน็ต

2.สแกนเนอร์
           
      อุปกรณ์ต่อเชื่อมคอมพิวเตอร์แบบกราฟิก ที่มีหน้าที่ ใน การเปลี่ยนแปลงภาพต้นฉบับ (รูปถ่าย ตัวอักษรบนหน้ากระดาษ ภาพวาด) ให้เป็นข้อมูล เพื่อให้คอมพิวเตอร์ สามารถนาข้อมูลดังกล่าว มาใช้ประโยชน์ ในการแสดงผลที่หน้าจอ ทาให้สามารถแก้ไข ตกแต่งเพิ่มเติม และจัดเก็บ ข้อมูลได้คาว่าสแกน (scan) หมายถึง กราดตรวจ, กราดภาพ เครื่องสแกน หรือ เครื่องกราดภาพ จะทาการตรวจสอบข้อมูลในลักษณะ ตัวอักษร หรือภาพโดยเรียงลาดับทีละส่วน นั่นเอง




3.โทรศัพท์เคลื่อนที่

     โทรศัพท์เคลื่อนที่ คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ใน การสื่อสารสองทางผ่าน โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โทรศัพท์มือถือมีความสามารถ เพิ่มขึ้นในลักษณะคอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อสมาร์ตโฟน และ สามารถเชื่อมต่อกับคอมได้สะดวก โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจาก ความสามารถพื้นฐานของโทรศัพท์แล้วยังมีคุณสมบัติพื้นฐานของ โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มมาอีกมากมาย




อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์

  

        อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์        

          คอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาขึ้นจาการคำนวณทางด้านคริตสาสตร์ของมุนษย์ เริ่มตั้งแต่การนับนิ้วมือ  การขีดสัญลักษณ์บนพื้นดิน การเรียงหิน การคำนวณด้วนลุกคิด การคำนวรด้วยเครื่องคำนวรแบบกลไก จนปี ค.ศ.1822 ชาลล์ แบบเบจ ได้คิดค้นและเคื่องคำนวนแบบอัตโนมัติซึ่งเป็นต้นแบบของการสร้างคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน คอมพิวเตอร์มีหลายประเภทแต่ละประเภทมีลักษณะ ขนาด ราคา และประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเป้นระบบด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายๆชิ้น เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
แม้แต่คอมพิวเตอร์ประเภทเดียวกันก็อาจมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในจำนวนที่ไม่เท่ากัน ซึ่งความแตกต่างของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์


  •  อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับผู้ที่ทำงานด้านเอกสารสิ่งพิมพ์ ได้แก่ จอภาพ  เศส เมาส์ แผงแป้นอักขระ สแกนเนอร์ และเครื่องพิมพ์


  • อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับผู้ทำงานด้านมัลติมีเดีย ได้แก่ จอภาพ เศส เมาส์ แผงอักขระ             สแกนเนอร์ ลำโพง ไมโครโฟนและกล้องดิจิทัล



1.แป้นอัขระ แป้ยฃนพิมพ์ [Keyboard]

       เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการนำข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นปุ่มตัวอักษรเหมือนปุ่มเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์รับเข้าพื้นฐานที่ต้องมีในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง จะรับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยน เป็นรหัสเพื่อส่งต่อไปให้กับคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ที่ใช้ในการป้อนข้อมูลจะมีจำนวนตั้งแต่ 50 แป้นขึ้นไป แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่มีแป้นตัวเลขแยกไว้ต่างหาก เพื่อทำให้การป้อนข้อมูลตัวเลขทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น การวางตำแหน่งแป้นอักขระ จะเป็นไปตามมาตรฐานของระบบพิมพ์สัมผัสของเครื่องพิมพ์ดีด ที่มีการใช้แป้นยกแคร่ (shift) เพื่อทำให้สามารถใช้พิมพ์ได้ทั้งตัวอักษร ตัวพิมพ์ใหญ่ และตัวพิมพ์เล็ก ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักษรที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นรหัส 7 หรือ 8 บิต กล่าวคือ เมื่อมีการกดแป้นพิมพ์ แผงแป้นอักขระจะส่งรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต นี้เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์


   


 2.  เมาส์ (Mouse)

      คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมตัวชี้บนจอคอมพิวเตอร์ (pointing device) เป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันถูกออกแบบมาให้มีรูปร่าง ลักษณะ สีสัน ต่าง ๆ กัน บางรุ่นมีไฟประดับให้สวยงาม เพื่อให้เมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทและความชื่นชอบของผู้ใช้ เช่นมีขนาดเล็ก มีส่วนโค้งและส่วนเว้าเข้ากับอุ้งมือของผู้ใช้ มีรูปร่างสีสันแปลกตาไปจากรุ่นทั่วไป หรือเป็นรูปตัวการ์ตูน และล่าสุดได้มีการพัฒนา เมาส์อากาศ (Air Mouse) ซึ่งสามารถใช้งานเมาส์โดยถือขึ้นมาเอียงไปมาในอากาศโดยไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรอง ก็สามารถควบคุมตัวชี้ได้เช่นกัน





  3.เคส[Case]

      ตัวถังหรือตัวกล่องคอมพิวเตอร์ หลายคนจะเรียกว่าซีพียูเนื่องจากเข้าใจผิด สำหรับเคสนั้นใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์อิ
เลคทรอนิคส์หลักของคอมพิวเตอร์เอาไว้ข้างใน เช่น CPU  เมนบอร์ด การ์ดจอฮาร์ดดิสก์ พัดลมระบายความร้อน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Power Supply ซึ่งจะมีติดอยู่ในเคสเรียบร้อย เคสคอมพิวเตอร์ควรเลือกที่รูปทรงสูงๆ เพื่อจะได้ติดตั้งอุปกรณ์ได้ง่าย และควรเลือกเคสที่มีช่องสำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์ เผื่อเอาไว้หลายๆ ช่อง ในกรณีที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในภายหลังจะได้ง่ายขึ้น




3.1 หม้อแปลงไฟฟ้า [Power supply]

     หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า ตัวจ่ายไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ หน้าที่ของ Power Supply ไม่ใช้แค่เป็นตัวจ่ายไฟอย่างเดียว จริงๆแล้วหน้าที่หลังของ Power Supply คือตัวแปลงไฟล์ฟ้าจากระบบไฟฟ้าบ้านที่มีแรงไฟฟ้าที่เยอะเกินความต้องการของอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ เช่น ไฟฟ้าบ้านในไทยมีไฟฟ้าอยู่ที่ 220 โวลต์ แต่อุปกรณ์บางชนิดต้องการแค่ 3.3 โวลต์ 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามลำดับ หรือจะพูดง่ายๆคือ Power Supply เป็นตัวแปลงไฟฟ้าให้เหมาะสมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั้นเอง

3.2 เมนบอร์ด [Main Board]

     กลางของการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีชิปเซตที่ทำหน้าที่รับ/ส่งข้อมูลของอุปกรณ์ต่างๆ อีกขั้นหนึ่ง เมนบร์ด (Main board)นิยมใช้มาตรฐานการออกแบบ ATX (Advance Technology Extension) ปรับปรุงจากระบบเก่าที่เป็นแบบ Body AT โดยแบบใหม่จะมีการปรับปรุงบริเวณ ซีพียู(CPU)โดยจะย้ายไปไกลพัดลมของแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น





3.3 ไมโครโฟรเซสเซอร์ [Micro Chip]

      ไมโครโพรเซสเซอร์ที่มีคำสั่งน้อย แต่คำสั่งทำงานได้เร็ว เริ่มต้นพัฒนาด้วยความร่วมมือของ ไอบีเอ็ม มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในยุคคริสต์ทศวรรษ 1970 ไมโครโพรเซสเซอร์ที่ได้ คือ IBM 801, Stanford MIPS และ Berkeley RISC 1 และ 2 ไมโครโพรเซสเซอร์ชนิดนี้ในยุคต่อมาได้แก่ SPARC ของ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ และ PowerPC ของ โมโตโรล่า






3.4 แรม [Ram

        หน่วยความจำที่ใช้เป็นหน่วยความจำหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นหน่วยความจำประเภทที่อ่าน/เขียน ข้อมูลลงไปได้ตลอดเวลาแต่ถ้าไฟดับหรือปิดเครื่อง ข้อมูลในหน่วยความจำจะหายหมดทันที



3.5 ฮาร์ดิสก์ [Hard Disk]

      อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุข้อมูลแบบไม่ลบเลือน มีลักษณะเป็นจานโลหะที่เคลือบด้วยสารแม่เหล็กซึ่งหมุนอย่างรวดเร็วเมื่อทำงาน การติดตั้งเข้ากับตัวคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ผ่านการต่อเข้ากับแผงวงจรหลัก (motherboard) ที่มีอินเตอร์เฟซแบบขนาน (PATA) , แบบอนุกรม (SATA) และแบบเล็ก (SCSI) ทั้งยังสามารถต่อเข้าเครื่องจากภายนอกได้ผ่านทางสายยูเอสบี, สายไฟร์ไวร์ รวมไปถึงอินเตอร์เฟซอนุกรมแบบต่อนอก (eSATA) ซึ่งทำให้การใช้ฮาร์ดดิสก์ทำได้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีคอมพิวเตอร์ถาวรเป็นของตนเอง




4.จอภาพหรือมอนิเตอร์ [Monitor]

           มีความสำคัญสำหรับการแสดงผลข้อมูลให้กับทางด้านสายตา  ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอะไรก็ตามที่เราสามารถที่จะดูได้ทางจอภาพไม่ว่าจะเป็น  ภาพ  แสง  สี ตัวหนังสือ  ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ในการแสดงผลหลักเลยก็ว่าได้หากไม่มีก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบสถานะต่างๆได้  และด้วยการแสดงผลที่ต้องมีคุณภาพจึงมีเทคโนโลยีต่างๆ  ที่พัฒนาขึ้นจากที่เคยเป็นจอขาวดำเหมือนเมื่อก่อน  แต่ก็ได้เป็นสี  โดยทั่วไปแล้วจอภาพที่เราใช้อยู่มีหลายแบบ  ทั้ง CRT  LCD cและ LED ที่ถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทด้วยกันมีคุณภาพที่แตกต่างกัน


























อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์

            อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์        การใช้คอมงพิวเตอร์ช่วยส่งเสริมการทำงานด้านต่างๆ นอกจากการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อส่งเสริ...